ติดตามแผ่นดินไหวญี่ปุ่นสดๆ

ติดตามแผ่นดินไหวญี่ปุ่นสดๆ

The Real-time Earthquake Alert Channel for Japan

update 2024 jan 1


youtube channel for earthquake news in japan ติดตามข่าวแผ่นดินไหวญี่ปุ่นได้ที่ youtube ชื่อช่องต่อไปนี้

株式会社ティーファイブプロジェクト

ウェザーニュース

ANNnewsCH

 


คีย์เวิร์ดสำหรับค้นข่าวแผ่นดินไหวญี่ปุ่น    keyword for searching  japan earthquake news in youtube or google

 

日本 地震  生配信 緊急 速報

日本全国 緊急地震速報ライブ The Real-time Earthquake Alert Channel for Japan (Tokyo)


 

จริงๆญี่ปุ่นแผ่นดินไหวทุกวันนะครับ แรงมากแรงน้อยแค่นั้นเอง

สิ่งที่คนญี่ปุ่นกลัวที่สุดคือ 南海トラフ Nankai torafu (Nankai megathrust earthquakes | แผ่นดินไหวเมกะทรัสต์นันไค | MEGAQUAKE ) การเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกแถวๆ โทกุจิมะ วะกะยะมะ ตะวันออกของญี่ปุ่น เป็นจุดเชื่อมต่อของแผ่นเปลือกโลกฟิลิปปินส์ philipine plate กับแผ่นแปซิฟิก pacific plate และแผ่น Amurian Plate 3 แผ่นหลักๆ

ความน่ากลัวของแผ่นดินไหวเมกะทรัสต์นันไค การสั่นของแผ่นเปลือกโลกหนึ่งแผ่น ส่งแรงต่อไปให้แผ่นเปลือกโลกแผ่นที่ติดกันเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในเวลาใกล้ๆกัน หรือเกิดพร้อมกันเลยก็ได้  มันจะเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดของญี่ปุ่นเท่าที่เคยมีมา เมกนิจูด 9 ขึ้นไป สั่นสะเทือนทั้งญี่ปุ่น เกิดซึนามิแบบที่ซัดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมิ เมื่อปี 2011 หรืออาจแรงกว่านั้น คาดว่ามีผู้เสียชีวิตราวๆ 300,000+ คน  ไฟดับทั้งประเทศ น้ำไม่ไหล ไฟไหม้เป็นวงกว้าง โรงพยาบาลเต็ม อาหารขาดแคลน ถนนทุกสายถูกตัดขาด มีรถไม่มีน้ำมัน มีอาหารหยูกยาแต่แจกจ่ายไม่ได้ ระบบการสื่อสารถูกตัดขาด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไปแบบในหนังวันสิ้นโลก ฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นพังพินาศ

ทางญี่ปุ่นและนักวิทยาศาสตร์รู้สิ่งนี้มานานแล้ว และทางญี่ปุ่นเองก็มีการเตรียมพร้อมรับมือมาเป็นสิบๆปีแล้ว มีการซ้อมรับมือทุกปี ทางทีวีก็ออกอากาศความรู้พวกนี้ให้คนญี่ปุ่นรับรู้อยู่เสมอ แต่สำหรับเราคนทั่วไปเป็นเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าเค้ารับมือภัยพิบัติกันอย่างไร


 

【日本赤十字社】石巻赤十字病院~東日本大震災 初動の記録

https://www.youtube.com/watch?v=Pc1ZO7YwcWc วีดีโอของโรงพยาบาลตอนญี่ปุ่นเจอแผ่นดินไหว สึมานิถล่มเมื่อปี  11 มีนาคม 2011 การรับมือภัยพิบัติของญี่ปุ่นนั้น น่าสนใจมาก จะสรุปสั้นๆจากวีดีโอให้ฟัง

14.48 เวลาท้องถิ่น เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ คนจะมาโรงพยาบาลก็มาไม่ได้ เพราะถนนถูกตัดขาด ถนนถึงแม้จะวิ่งได้ แต่ก็ไม่มีน้ำมันเติมให้รถวิ่ง ปัญหาร้อยแปดพันเก้า ระบบการสื่อสารถูกตัดขาด น้ำท่วม ไฟไหม้ ตึกถล่ม ฯลฯ

14.50 หลังแผ่นดินไหวสงบ ตั้งห้องวอร์รูมในโรงพยาบาลทันที  (ไม่ถึงสองนาทีหนังแผ่นดินไหว) ใช้กระดานไวท์บอร์ดในการติดต่อสื่อสาร เพราะพื้นฐานที่สุดและไฟฟ้าอาจดับได้ทุกเมื่อ

หน่วยงานทุกหน่วยงาน มีการเตรียมพร้อมกันอย่างดี เมื่อถึงเวลาทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง ทุกคนเข้าสู่โหมดภาวะฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ

รายงานสภาพความเสียหายของโรงพยาบาล ส่วนใหญ่ใช้ได้ ส่วนใหญ่เสียหาย น้ำ ไฟฟ้า อาหาร มีพอใช้กี่ชั่วโมง เพื่อสามารถแบ่งทรัพยกรที่มีใช้ได้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

ห้องโถงโรงพยาบาลกลายเป็นโรงพยาบาลสนามทันที โต๊ะเก้าอี้ เอาออกให้หมด ทุกอย่างที่ไม่เกี่ยวกับการรักษาคนเอาออกให้หมด พื้นที่ว่างทุกที่เป็นโรงพยาบาลสนามได้หมด ผอ.โรงพยาบาลเป็นผู้สั่งการสูงสุดทันที แต่ละคนมีเสื้อที่มีตัวหนังสือเขียนไว้ว่ามีหน้าที่อะไร และทำอะไร ระบบการสื่อสารด้วย visual ด้วยการให้คนใส่เสื้อสีต่างๆกัน

คนใส่เสื้อสีต่างๆกัน 

1.หน่วยสีน้ำเงิน หน่วยสั่งการ สื่อสาร

1.หน่วยสีเขียว รักษาคนไม่บาดเจ็บมาก ผู้ป่วยทุกคนเข้ารพ.มาจะผ่านจุดเขียวก่อน แล้วจากนั้นแยกไป จุดเหลือง แดง หรือดำ

2.หน่วยสีเหลือง รักษาคนบาดเจ็บปานกลาง

3.หน่วยสีแดง รักษาคนบาดเจ็บสาหัส

4.หน่วยสีดำ บาดเจ็บมาก รักษาไม่ได้ต้องปล่อยให้ตายหรือตายแล้ว

ตอนค่ำ หน่วย 自衛隊 jieitai มาถึงรพ.ช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถสื่อสารกับ city hall ได้ ส่งหน่วยแพทย์ออกตามจุดต่างๆ เท่าที่เดินทางได้

วันที่สองหลังเกิดภัยพิบัติ ผู้ป่วยจากทุกสารทิศมาโรงพยาบาลทั้งทางบกทางอากาศจนล้นโรงพยาบาล

คนที่ไม่รู้ไปไหน หรืออาการบาดเจ็บไม่มาก ก็ไม่รู้จะไปไหน ไปไหนก็ไม่ได้ ก็อยู่โรงพยบาล โรงพยาบาลกลายเป็นสถานที่ลี้ภัยไปในตัว

 

 

สรุป สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรับมือภัยพิบัติของญี่ปุ่น

1.การสื่อสารระหว่างบุคคลถึงบุคคล หน่วยงานถึงหน่วยงาน มีประสิทธิภาพมาก มีลักษณะเป็นมดงาน แต่ละคน แต่ละหน่วยงานเมื่อถึงเวลาจะมีหน้าที่ของตัวเองทันที สามารถตัดสินใจได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่งหรือคำแนะนำ

2.การเดินทางคมนาคมทางพื้นดิน ต้องซ่อมแซมให้ใช้งานได้เร็วที่สุด เพราะการขนส่งทางอากาศมีข้อจำกัดเยอะมาก

3.การจัดหาร จัดหาน้ำสะอาด ตอนแผ่นดินไหวท่อส่งน้ำทั้งนอกบ้านในบ้านจะเสียหายหมด แท็งน้ำรุ่นเก่าที่ไม่ได้รองรับแผ่นดินไหวจะแตกรั่วหมด ทำให้ขาดแคลนน้ำสะอาด น้ำดื่ม

 

 

การรับมือภัยพิบัติของญี่ปุ่น เค้ายังสอนอีกว่า ให้ช่วยตัวเองให้รอดก่อนค่อยไปช่วยคนอื่น ถ้าถ้ารักษาชีวิตตัวเองไม่ได้ การไปช่วยคนอื่นจะตายหมู่มากกว่ารอดหมู่ เค้ามีคำพิเศษในการอธิบายคำนี้ สอนกันตั้งแต่ประถม เรียกว่า Tendenko  เท็นเดนโค

津波てんでんこ  sunami tendenko หรือ 命てんでんこ inochi tendenko เรียกสั้นว่า tendenko แปลสั้นๆว่า “หนีไปคนเดียวไม่ต้องช่วยใคร”

tenden  แปลว่า ตัวเอง

ko แปลว่า เล็กๆ

「津波が来たら、取る物も取り敢えず、肉親にも構わずに、各自てんでんばらばらに一人で高台へと逃げろ」「自分の命は自分で守れ」

“เมื่อสึนามิมา ไม่ต้องรออะไร ข้าวของไม่ต้องหยิบ ญาติพ่อแม่พี่น้องก็ไม่ต้องรอ ให้หนีไปที่ที่สูงคนเดียว” “ เอาชีวิตตัวเองให้รอด(คนเดียวพอ)”

การเสียชีวิตบางส่วนในภัยพิบัตของญี่ปุ่น เกิดจากการที่ พ่อแม่อยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว แต่กลับไปที่บ้านเพราะเป็นห่วงว่า พ่อแม่ที่แก่ชราหรือว่าลูกๆ ยังไม่ได้หนีออกมา หลายๆครั้งกลับกลายเป็นว่า คนที่กลับบ้านไปช่วยเป็นผู้เสียชีวิตซะเอง ส่วนเด็กๆหรือคนชราที่ผู้เสียชีวิตเป็นห่วงอยากกลับไปช่วยรอดชีวิต เพราะได้หนีไปที่ปลอดภัยตั้งแต่แรกแล้ว พูดง่ายๆแบบบ้านๆ คือ เมื่อเกิดภัยพิบัติตัวใครตัวมันก่อน เหตุสงบตัวเองปลอดภัยแล้วค่อยไปช่วยคนอื่น

ถึงขนาดว่าตอนสึนามิมา เมื่อถึงเหตุจวนตัวจริงๆ เค้าสอนให้คนเค้า ทิ้งพ่อทิ้งแม่ทิ้งลูกแล้ววิ่งหนีคนเดียวไปเลย ถ้าคนกลุ่มนี้ดูท่าเค้าหนีไม่ไหวแล้ว ถ้าเรายังฝืนช่วยต้องตายหมู่ ทิ้งทุกคนไว้ข้างหลังให้เอาตัวเองให้รอดก่อน เหตุสงบเมื่อไหร่ค่อยกลับไปช่วย หมาแมวสัตว์เลี้ยงไม่เคยถูกพูดถึงใน Tendenko แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงปล่อยให้ตายตามมีตามเกิด (หรือว่าหมาแมว อาจฉลาดกว่าคน มีเซนส์รับรู้เหตุภัยพิบัติล่วงหน้า หนีไปก่อนแล้ว)

共倒れ tomodaore คือ การที่คนไปช่วยตายไปพร้อมกับคนต้องการความช่วยเหลือ , ตายทั้งคู่

 

คนภายนอกญี่ปุ่น อาจมองว่า  Tendenko  เท็นเดนโค เป็นความคิดเห็นแก่ตัว แต่ความคิดนี้ ทำให้คนรอดชีวิตทั้งครอบครัวมาแล้ว โรงเรียนประถมและมัธยมในเมือง kamaishi เด็กๆรอดชีวิตทั้งหมดทั้งสองโรงเรียน ทั้งๆที่โรงเรียนเลิกปล่อยเด็กกลับบ้านแล้ว

เหตุการณ์ตอนสึนามิ 11 มีนาคม 2011  ในเมืองคามาอิชิ Kamaishi  มีคนเอามาสร้างเป็นสารคดี The Kamaishi miracle

Tendenko  เท็นเดนโค นี้จริงๆ หากตรึกตรองคิดหลายๆชั้น เป็นปราชญ์ที่ลึกซึ้งมาก เป็นความเชื่อที่ว่า คนที่เรารัก เค้าฉลาด เค้าเก่ง เค้าหนีเอาตัวรอดเองได้ เราไม่ต้องห่วง เราต้องมั่นใจในตัวเค้า เดี๋ยวเราก็จะเจอกันตรงที่หลบภัยที่ปลอดภัย  ในสารคดี The Kamaishi miracle เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว มีเหตุที่ว่าถึงขนาดแม่หนีทิ้งลูกที่อยู่แค่ป.2 ป.3 ที่อยู่อีกตึกที่ติดกัน หนีไปคนเดียว ลูกก็ฉลาดหนีไปคนเดียวเหมือนกัน ครอบครัวนี้รอดชีวิตทุกคน เพราะทำตามความเชื่อเรื่อง Tendenko

 

 


 

[NHKスペシャル] もしも南海トラフ巨大地震が発生したら?シミュレーションCGとドラマで解説 | MEGAQUAKE | NHK

https://www.youtube.com/watch?v=V9e5yuZ1CxA

【南海トラフ地震対策編】全体版

https://www.youtube.com/watch?v=qgjZHORXf50

วีดีโออธิบาย แผ่นดินไหวเมกะทรัสต์นันไค หรือเข้า youtube google ค้นหาด้วยคำว่า 南海トラフ

 


เรื่องเกือบน่ารู้

น้ำสึนามิ มีความหนาแน่นและมวลมากกว่าน้ำทั่วๆไปและน้ำทะเลอีก เพราะเป็นคลื่นใต้น้ำที่กวาดเอาโคลนเอาทรายขนาดเล็กมากๆติดมาด้วย จำไม่ได้และว่าหนาแน่นเท่าไหร่ น่าจะ +10-20%จากน้ำปกติมั้ง ทำให้พัดคนล้มแล้วไหลตามน้ำได้ แม้น้ำท่วมแค่ตาตุ่ม

 

ที่ญี่ปุ่นเค้าใช้มาตราการวัดการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวอีกรูปแบบนึง 震度 (shindo) Seismic Intensity ควบคู่กับระบบ richter(ริกเตอร์) ที่เรารู้จักกัน

震度 (shindo) Seismic Intensity เป็นระบบวัด “ความเร่ง” ของพื้นที่สั่นสะเทือนตอนเกิดแผ่นดินไหว (จะคล้าย  Modified Mercalli Intensity Scale มากกว่า)
magnitude หน่วย richter(ริกเตอร์) เป็นระบบวัด”พลังงาน” ที่การเกิดแผ่นดินไหวปล่อยออกมา ณ จุดศูนย์กลางที่เกิดแผ่นดินไหว ซึ่งไม่ได้บอกข้อมูลอะไรมาก เพราะคนที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว 9 ริกเตอร์ออกมา 100กิโลเมตร กับ คนที่อยู่ใกล้แค่ 10 กิโลเมตร จะรับรู้ความสั่นสะเทือนไม่เท่ากัน ทั้งๆที่เป็นแผ่นดินไหว 9ริกเตอร์เท่ากัน

shindo กับ ริกเตอร์นั้นไม่สามารถเทียบกันได้ เพราะวัดคนละหน่วยกัน อันนึงวันความเร่ง อีกอันนึงคำนวนจาก seismographs

1 richter อาจมีหลายค่า shindo 

 

震度 (shindo) ในปัจจุบันมี 0 ถึง 7 ทั้งหมด 10 ระดับ

0 ค่า shindo ระหว่าง 0-0.5  ไม่รู้สึก

1 ค่า shindo ระหว่าง 0.5-1.5 รู้สึกอ่อนๆ

2 ค่า shindo ระหว่าง 1.5-2.5 โคมไฟ สิ่งที่ห้อยอยู่แกว่งไปแกว่งมา

3 ค่า shindo ระหว่าง 2.5-3.5 แก้ว แก้วจาน ที่วางบนโต๊ะ สั่นมีเสียง (บ้านเราใช้ค้อนปอนด์ ทุบตึกเพื่อรื้อถอนจะสั่นประมาณนี้)

4 ค่า shindo ระหว่าง 3.5-4.5 ปลุกคนนอนให้ตื่นได้ คนส่วนใหญ่เริ่มรู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือน

5-  ค่า shindo ระหว่าง 4.5-5.0 (ความเร่งมากกว่า 1m/s^2 ) หนังสือเริ่มตกจากชั้นวางหนังสือ

5+ ค่า shindo ระหว่าง 5.0-5.5 (ความเร่งมากกว่า 2m/s^2 )  ชั้นวางหนังสือทั้งชั้นล้มลงมา

6- ค่า shindo ระหว่าง 5.5-6.0 (ความเร่งมากกว่า 3m/s^2 )  ยืนยาก ผนังร้าว กระตกแตก ประตูเบี้ยวจนเปิดประตูไม่ได้

6+ ค่า shindo ระหว่าง  6.0-6.5 ยืนไม่ได้ ต้องคลานอย่างเดียว

7 แรงที่สุด ค่า shindo ระหว่าง  6.5-7 (ความเร่งมากกว่า 4m/s^2 ) การเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ระดับ megaquake อย่างที่โกเบปี 1995 (7.3 ริกเตอร์) สึนามิปี 2011 (9.1 ริกเตอร์) จะเป็นระดับ shindo 7 หมด

อาจจะมีค่า  shindo  มากกว่า 7 ได้ ถ้ามีแผ่นดินไหวที่ระดับ shindo มากกว่า7.0 ขึ้นไป แต่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์เท่าที่มีการวัดแผ่นดินไหวมา ตอนนี้ค่า shindo เลยมีแค่ 7 สูงสุด ณ ปัจจุบัน

 

ที่มา https://en.wikipedia.org/wiki/Japan_Meteorological_Agency_seismic_intensity_scale

 

แผ่นดินไหวสามารถไหวได้ตั้งแต่ไม่ถึงครั้ง/วินาที จนมากกว่า 20ครั้ง/วินาที (20 hz) ที่ทำให้เกิดเสียงที่หูคนรับรู้ได้(หูคนฟังเสียงแผ่นดินไหวได้) นึกสภาพพื้นบ้าน ผนังห้องฮั่มเพลงได้ ขณะที่ตัวเราถูกโยกไปโยกมาก 20ครั้ง/วินาทีทุกทิศทาง ด้วยความเร่งมากกว่า 0.01-4 m/s^2  นั่นแหละแผ่นดินไหว

มีทฤษฎีมากมายว่าทำไม สัตว์ต่างๆ ตกใจก่อนวิ่งหนี หมาหอน ช้างวิ่งไหน นกบินเป็นฝูง มดย้ายรัง ฯลฯ ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว เพราะว่าสัตว์เหล่านี้อาจได้ยินเสียงที่ต่ำกว่าหรือสูงกว่าเสียงที่มนุษย์ได้ยินได้ สัตว์เหล่านี้เลยตกใจ และยังมีทฤษฎีที่ว่าเมื่อเกิดความดันมหาศาลขึ้นในชั้นหินที่กำลังชนกัน ก่อนเกิดแผ่นดินไหว หินจะปล่อยพลังงาน(ประจุไฟฟ้า,อิเล็กตรอน หรือไอออน อะไรซักอย่าง)ออกมาในปริมาณที่สัตว์เหล่านี้รับรู้ได้ โดยเฉพาะนกที่ใช้ สนามแม่เหล็กโลก จนไปถึงควอนตัมกลศาสตร์ในการนำทาง